Last updated: 13 มิ.ย. 2567 | 193 จำนวนผู้เข้าชม |
เรารู้จักรังสียูวี (UV) หรือรังสีอัลตราไวโอเล็ท (Ultraviolet) กันอยู่แล้วจากการใช้ชีวิตประจำวันที่ต้องคอยป้องกันหรือหลีกเลี่ยงมัน แสงแดดจากดวงอาทิตย์คือจุดเริ่มต้นของรังสีเหล่านี้ เมื่อพิจารณาแสงในลักษณะของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เราจะแบ่งแสงได้ 3 ช่วงคือ รังสีในช่วง ‘อินฟราเรด’ (Infrared radiation) คิดเป็น 45% ของแสงแดด มีความยาวคลื่นตั้งแต่ 700 นาโนเมตรขึ้นไป ดวงตามนุษย์มองไม่เห็น แต่จะให้ความรู้สึกถึงความร้อนที่ผิวหนัง, ‘แสงขาว’ หรือรังสีในช่วงที่มองเห็นได้ (Visible light) คิดเป็น 50% ของแสงแดด มีความยาวคลื่น 400-700 นาโนเมตร ดวงตามนุษย์มองเห็นได้และสามารถจำแนกได้เป็น 7 สี ตามสีรุ้งหรือที่เรียกว่าสเปกตรัม และรังสีในช่วง ‘อัลตราไวโอเลต’ คิดเป็น 5%ของแสงแดด มีความยาวคลื่นในช่วง 100-400 นาโนเมตร ดวงตามนุษย์มองไม่เห็นแต่เป็นอันตรายต่อพื้นผิวของสิ่งต่างๆ มากที่สุด
รังสียูวีส่งผลต่อแผ่นเมทัลชีทอย่างไร
ช่วงความยาวคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในส่วนของรังสียูวีแบ่งเป็นช่วงความยาวได้ 3 ช่วง คือ UVA, UVB และ UVC ซึ่งแต่ละตัวมีความสามารถในการทำลายผิวได้ในระดับความลึกที่ต่างกัน คือ UVA ซึ่งมีปริมาณมากที่สุดในแสงแดดทั่วไป (95%) ส่งผลกระทบต่อสารเคลือบผิวหรือตัวประสานเช่นกาวหรือสี UVB คือรังสีที่อยู่กลางแจ้งเป็นสาเหตุของการทำให้ผิวไหม้และเกรียมแดดได้ ส่วน UVC นั้นเป็นรังสีที่ไม่สามารถลงมายังผิวโลกได้เนื่องจากถูกชั้นโอโซนกรองไว้ รังสีเหล่านี้เมื่อได้รับเป็นจำนวนมากในระยะเวลานานย่อมทำลายพื้นผิวรวมทั้งสีเคลือบที่อยู่บนแผ่นเมทัลชีท ส่งผลให้สีซีด ดูขุ่นมัวไม่เงางาม ที่หนักสุดคือเกิดการพองตัวของผิว แตกร้าว และอาจก่อให้เกิดสนิมตามมาได้
การพัฒนานวัตกรรมที่ช่วยให้เมทัลชีททนทานต่อรังสียูวี
เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เมทัลชีทสามารถอยู่ในสภาวะแวดล้อมกลางแจ้งโดยไม่เสื่อมสภาพเร็วเกินไป บลูสโคปจึงได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เหล็กเคลือบสีคัลเลอร์บอนด์ (Colorbond(R) Steel) ที่ตอบโจทย์สภาพแวดล้อมในประเทศไทยมากที่สุด ด้วยเทคโนโลยีระบบสีขั้นสูงตามมาตรฐานระดับโลก AS/NZS ทำให้ตัวเนื้อผลิตภัณฑ์มีความทนทานต่อรังสียูวี ต้านทานการหลุดลอกและการแตกลายงาของสีได้ดี ใช้เทคโนโลยีเทอร์มาเทค (Thermatech® Technology) ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพของการสะท้อนรังสีจากดวงอาทิตย์ได้ทั้งในเฉดสีอ่อนและเข้ม ทำให้สามารถเลือกใช้สีได้หลากหลาย
การทดสอบความคงทนด้วยเครื่องเร่งสภาวะแวดล้อมภายใต้รังสียูวี
เพื่อให้เห็นชัดเจนถึงประสิทธิภาพของ Colorbond(R) Steel จึงได้มีการทำการทดสอบร่วมกับศูนย์ทดสอบและมาตรวิทยา สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) โดยใช้เครื่องเร่งสภาวะแวดล้อมภายใต้รังสียูวี (QUV accelerated weathering tester) ตามมาตรฐาน ASTM G154-16 Standard Practice for Operating Fluorescent Ultraviolet (UV) Lamp Apparatus for Exposure of Nonmetallic Materials ในการจำลองสถานการณ์ภายใต้สภาวะอากาศของประเทศไทย ที่ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพจากแสงแดด ความชื้น รวมไปถึงน้ำค้าง
จากระยะเวลาทดลองทั้งหมด 2,000 ชั่วโมง ตัวเครื่องได้จำลองสภาวะแวดล้อมให้กับเหล็กเคลือบสีคัลเลอร์บอนด์ (Colorbond(R) Steel) โดยแบ่งรอบการทำงานให้อยู่ภายใต้สภาวะรังสี UVA-340 ที่ 8 ชั่วโมง และการจำลองสภาวะความชื้นโดยการควบแน่นของน้ำ 4 ชั่วโมง ทำซ้ำจนครบตามระยะเวลาที่กำหนด
หลังจากทำการทดสอบจนครบระยะเวลาแล้ว เมื่อนำชิ้นทดสอบตัวอย่างออกจากตู้ทดสอบ เพื่อประเมินผลความบกพร่องที่เกิดขึ้นกับชิ้นงานทดสอบ ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงของสี และความเงาที่ลดลง ผลการทดสอบผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบสี (Colorbond(R) Steel) พบว่าค่าการเปลี่ยนแปลงของสี (Delta E) มีค่าน้อยกว่า 1*
* หมายเหตุ : ความแตกต่างของสีที่จำแนกได้ เมื่อ
0 < Delta E < 1 ผู้สังเกตไม่เห็นความแตกต่างของสี
1 < Delta E < 2 ผู้สังเกตที่มีประสบการณ์เท่านั้นที่สามารถสังเกตความแตกต่างของสีได้ (ผู้ที่มีประสบการณ์หมายถึง ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการแยกแยะสี เป็นต้น)
ผลิตภัณฑ์เมทัลชีทคุณภาพที่กล้ารับประกันสียาวนานถึง 10 ปี
ทั้งนวัตกรรมที่สร้างขึ้นและผลการทดลองที่ออกมาทำให้เหล็กเคลือบสีคัลเลอร์บอนด์ (Colorbond(R) Steel) เป็นผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้ และให้การรับประกันคุณภาพวัสดุทั้งเรื่องสีไม่ซีดจาง 10 ปี การไม่หลุดร่อนหรือหลุดเป็นเกล็ดของสี 15 ปี รวมถึงการไม่ผุและเป็นรูพรุนอันเนื่องมาจากการกัดกร่อน 30 ปี นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองมาตรฐานทั้ง มอก. TIS 2753-2559 และ AS/NZS 2728-2013, AS1365-1996 จากออสเตรเลียด้วย
12 มิ.ย. 2567
12 มิ.ย. 2567